การสื่อสารเพื่อการเรียนการสอน
การเรียนรู้โดยทั่วไป หมายถึง
ความสัมพันธ์ต่างๆ
จนถึงขั้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือมีความสามารถในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
หรืออาจหมายถึงกระบวนการที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้โดยทั่วไปมักเน้นผลที่เกิดจากการกระทำ
การสอน (Instruction) หมายถึง การจัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนการให้การศึกษาและการฝึกอบรมโดยทั่วไป
ถือว่าเป็นหน้าที่ของครู
การสื่อสาร คือ กระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสารระหว่างบุคคลต่อบุคลหรือบุคคลต่อกลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ สัญญาณ
หรือพฤติกรรมที่เข้าใจกัน โดยมีองค์ประกอบดังนี้
1. ผู้ส่งสาร
คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูล สารไปยังผู้รับสารโดยผ่านช่องทางที่เรียกว่าสื่อ ถ้าหากเป็นการสื่อสารทางเดียวผู้ส่งจะทำหน้าที่ส่งเพียงประการเดียวแต่ถ้าเป็นการสื่อสาร
2 ทางผู้ส่งสารจะเป็นผู้รับในบางครั้งด้วย ผู้ส่งสารจะต้องมีทักษะในการสื่อสาร
มีเจตคติต่อตนเอง ต่อเรื่องที่จะส่ง
ต้องมีความรู้ในเนื้อหาที่จะส่งและอยู่ในระบบสังคมเดียวกับผู้รับก็จะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ
2. ข่าวสาร
ในการะบวนการติดต่อสื่อสารก็มีความสำคัญ ข่าวสารที่ดีต้องแปลเป็นรหัส เพื่อสะดวกในการส่งการรับและตีความ
เนื้อหาสารของสารและการจัดสารก็จะต้องทำให้การสื่อความหมายง่ายขึ้น
3. สื่อหรือช่องทางในการรับสารคือ
ประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัสและตัวกลางที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
เช่น สิ่งพิมพ์ กราฟิก สื่ออิเลกทรอนิกส์
4. ผู้รับสาร
คือ ผู้ที่เป็นเป้าหมายของผู้ส่งสาร การสื่อสารจะมีประสิทธิภาพ ผู้รับสารจะต้องมีประสิทธิภาพในการรับรู้
มีเจตคติที่ดีต่อข้อมูลข่าวสาร ต่อผู้ส่งสารและต่อตนเองการสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ
โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล
เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ประเภทของการสื่อสารการจำแนกประเภทของการสื่อสาร
มีผู้จำแนกไว้หลาย ๆ ประเภท โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา
ตามจุดประสงค์ของการศึกษาหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะนำเสนอ
ซึ่งสรุปได้ตามตารางดังนี้
1.
จำนวนผู้ทำการสื่อสาร
1.1
การสื่อสารภายในตัวบุคคล (intrapersonal
communication)
1.2
การสื่อสารระหว่างบุคคล (interpersonal
communication) การพูดคุยระหว่างบุคคล 2 คนขึ้นไป
1.3
การสื่อสารกลุ่มใหญ่ (large group
communication)
2.การเห็นหน้ากัน
2.1
การสื่อสารแบบเผชิญหน้า(face to face
communication)
2.2
การสื่อสารแบบไม่เผชิญหน้า (interposed
communication)- เอกสารการสื่อสารที่ผ่าน
สื่อมวลชนทุกชนิด คือ
3.
ความสามารถในการโต้ตอบ
3.1 การสื่อสารทางเดียว (one-way communication)การสื่อสารที่ผ่านสื่อมวลชนทุกชนิด
คือ
3.2 การสื่อสารสองทาง (two-way communication)
4.
ความแตกต่างระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสาร
4.1
การสื่อสารระหว่างเชื้อชาติ (interracial
communication)
4.2
การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม (gosscultural
communication)
4.3
การสื่อสารระหว่างประเทศ (international
communication)
5.
การใช้ภาษา
5.1
การสื่อสารเชิงวัจนภาษา (verbal
communication)
บทบาทของสื่อในการเรียนการสอนปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่า
สื่อและเทคโนโลยีการสอน สนับสนุนยุทธวิธีเบื้องต้นของการเรียนการสอนได้หลายประการ
ที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ใช้สื่อ/เทคโนโลยีช่วยการสอนของครู
การใช้สื่อลักษณะนี้เป็นวิธีที่เรารู้จักและคุ้นเคยมากที่สุด
2. สื่อช่วยผู้เรียนฝึกทักษะและการปฏิบัติได้
เป็นการจัดสื่อไว้ในลักษณะห้องปฏิบัติการ
3. ช่วยการเรียนแบบค้นพบ
สื่อการสอนสามารถช่วยการจัดการเรียนการสอนแบบค้นพบหรือการสอนแบบ
4. สื่อช่วยจัดการเกี่ยวกับการสอน สื่อการเรียนการสอนสามารถช่วยให้ผู้เรียนกับผู้สอนมีปฏิสัมพันธ์หรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
5. สื่อ/เทคโนโลยีในการสอนแบบเอกัตบุคคล
การสอนแบบเอกัตบุคคลเป็นวิธีสอนที่กำลังได้รับความสนใจกันมากในปัจจุบัน
การสอนแบบนี้มุ่งให้ผู้เรียนเรียนด้วยตนเอง หรือเรียนเป็นรายบุคคลภายใต้คำแนะนำหรือการชี้แนะของครู
6. ช่วยการศึกษาพิเศษ
สื่อการสอนสามารถจัดขึ้นมาเพื่อช่วยให้การศึกษาแก่คนพิการได้เป็นอย่างดี
เรียกว่าสื่อช่วยในการจัดการศึกษาพิเศษได้
7. สื่อการสอนกับการศึกษานอกระบบ
จากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความรู้ทางวิชาการ
สื่อการสอนมีบทบาทสำคัญยิ่งในการให้การศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในหรือ
นอกห้องเรียน ตลอดจนการศึกษาแบบทาง
ประโยชน์ของการสื่อสาร
1)
การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว
การจัดเก็บข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สามารถจัดเก็บไว้ในแผ่นบันทึกที่มีความหนาแน่นสูง
แผ่นบันทึกแผ่นหนึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้มากกว่า 1 ล้านตัวอักษร
2) ความถูกต้องของข้อมูล
โดยปกติมีการส่งข้อมูลด้วยสัญญาณทางอิเล็กทรอนิกส์จากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่นด้วยระบบดิจิทัล
วิธีการรับส่งนั้นจะมีการตรวจสอบสภาพของข้อมูลหากข้อมูลผิดพลาดก็จะมีการรับรู้และพยายามหาวิธีการแก้ไขให้ข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้อง
3) ความเร็วของการทำงาน
โดยปกติสัญญาณของไฟฟ้าจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าแสง
ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลจากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่งหรือค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่
สามารถทำได้รวดเร็ว
4) ต้นทุนประหยัด
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ต่อเข้าหากันเป็นเครือข่ายเพื่อส่งหรือสำเนาข้อมูลทำให้ราคาต้นทุนของการใช้ข้อมูลไม่แพง
เมื่อเทียบกับการจัดส่งแบบวิธีอื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น